Power of Love

I am creating new program of Blog by PHP. Then, I head to this site to study and test it. I would like to know what procedure is. If you know about programming and process, Plz recommend me. Really Thank You.

Tuesday, January 17, 2006

ต่อหน้าพระพักตร์ ตัวข้านั้นแสนว่างเปล่า

วันนี้ได้รับมากเหลือล้น ไว้มีเวลาค่อยมาโพสต์อีกที สรุปย่อยๆ เป็นหัวข้อดังนี้ก่อน

- สิ่งที่พระเจ้าสอน
--- ความทุกข์ยาก
--- ความชื่นชมยินดีเพราะไม้กางเขน
--- พระเยซู ความชอบธรรม และการตายแทนเพื่อคนบาป
--- การให้พระเจ้าขนาบซาตาน การใช้สิทธิอำนาจในขอบเขต

- พระวจนะจากการทูลขอ ต่อเหตุการณ์ และหลายสิ่งที่กังขา

- สิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยพิเศษ
--- อันดับการแต่งตั้ง (จากพระเยซู) เพื่อคริสตจักร
--- haughty, humbleness
--- Holy communion
--- Body of Christ
----------------------------------------------------------------------------

อยู่ดีๆ ก็อยากเขียนเพลงขึ้นมา 5 นาทีผ่านไป ได้มานิดนึง แต่ทำนองไม่ลงตัวซักที

ชื่อเพลง: ต่อหน้าพระพักตร์
ผู้แต่ง: Inspiration of Holy Spirit

ข้าเข้ามา โน้มตัวลง ตรงพระบาท

ฤทธิ์อำนาจ พระสิริ ล้อมแผ่นดิน
ขอบพระคุณ ทั้งหมด พระพรทั้งสิ้น
ให้ชีวิน จนถึงวัน เฝ้าราชา

ต่อหน้าพระพักตร์ ตัวข้านั้นแสนว่างเปล่า
โอ้ตัวเรา แค่เพียง ผงคลี
ไม่มีอะไรสวยงาม ไม่มีอะไรน่าดู
แต่พระเยซู เชิดชูมอบความชอบธรรม

ทรงเก็บข้า มาจากโคลน ปั้นขึ้นใหม่
กำหนดไว้ ใช้การได้ โดยพระเจ้า
ความอ่อนแอ ถูกแปรไป ไม่รู้เก่า
โปรดให้เรา สวยงาม ตามพระทัย

ต่อหน้าพระพักตร์ ความรักนั้นแสนยิ่งใหญ่
โอ้หัวใจ เปี่ยมล้น พระคุณ
ใครมองไม่เคยเข้าใจ ยังมีคนมองข้างใน
ก็เพราะพระองค์ ที่ยังทรงรักข้า

(ท่อนฮุคยังไม่ได้แต่ง)

Sunday, January 15, 2006

อย่าดับพระวิญญาณ อย่าประมาทคำเผยข้อลับลึก

(สิ่งที่เรียนรู้จากคริสตจักร และการเข้ากลุ่มอากาเป้สำหรับวันนี้)


1. อย่าดับพระวิญาณ อย่าประมาทคำเผยข้อลับลึก [1 เธสะโลนิกา 5:19-20]

เป็นการน่าเสียดาย หากการทรงนำของพระเจ้า จะถูกดับด้วยอะไรซักอย่าง วันนี้พระวิญญาณไม่ถูกดับ และพระองค์ตอบคำอธิษฐานมากมาย จากที่แสวงหาพระเจ้า ในเรื่องทิศทางของกลุ่มพอสมควร คำตอบเหมือนจะมาช้า แต่พระองค์ก็ไม่สายตามเคย พระเจ้ายืนยันหลายครั้งว่าเป็นสิ่งนี้ แม้จะดูเหมือนมีบางอย่างกั้นขวาง และเป็นเรื่องยากที่จะพูดให้ใครซักคนรับฟัง ในที่สุด จากการขอพระองค์ ถึงสิ่งที่พระเจ้ายืนยันหลายครั้งว่าใช่ ให้ได้มีโอกาส แล้วก็เป็นจริง แต่ก็เกิดความสับสนขึ้นมา ในระหว่างที่เผชิญวิญญาณต่างๆ ที่สัมผัสได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะดูเหมือนไม่สูงมาก แต่ก็อันตรายทีเดียว ทำให้การทำงานของพระองค์ ไปได้ไม่เต็มที่

  1. ความหยิ่งบนความถ่อมใจ
    เคยมีคำกล่าวไว้ว่า คุณธรรมของคริสเตียนที่ยากที่สุด คือ "ความถ่อมใจ"
    ความถ่อมใจ คือ การที่ยอมรับ และเห็นว่าผู้อื่นดีกว่าตน ถ้ามองลงไปลึกๆ ในจิตใจ สามารถยอมรับกับพระเจ้าได้ ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ยากจริงๆ แต่ความรักของพระเจ้า ก็สามารถลบล้างมันได้ เพราะ ความรัก ย่อมไม่จดจำความผิดผู้อื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ การมองคนในแง่ลบบ้าง เพื่อคิดให้ทันคน เพื่อให้รู้ว่าคนอื่นนั้นร้าย ไม่ได้มาจากความรัก
    วันนี้ สามารถสัมผัสวิญญาณแห่งความเย่อหยิ่งได้ (ไม่ทราบว่าเป็นผีตัวเดียวกับที่ขับในฝันบ่อยๆ หรือเปล่า) แต่มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า วิญญาณนี้มาจากภายนอก (ไม่ใช่เราเอง) การที่เราพูดได้ว่ากลับใจจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ใจมนุษย์สุดจะหยั่งถึงนัก มีหลายสิ่งมากมาย ที่บอกได้ว่า เบื้องหลังแล้ว ก็มีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่มากมาย
    ในพระคัมภีร์กล่าวว่า "เราทุกคนต่างก็มีความรู้ ความรู้นั้นทำให้คนลำพอง แต่ความรักเสริมสร้างขึ้น" พระคัมภีร์จึงพูดย้ำเสมอ ว่าให้เราเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีอะไรเลย เพื่อเราจะเป็นคนเข้มแข็ง โดยพระเจ้ากระทำกิจผ่านชีวิตของเราได้ มนุษย์ไม่สามารถเข้าหาพระเจ้าด้วยความดี และการอยู่ในธรรม แต่เพราะความต้อยต่ำ หากมนุษย์ซักคนหนึ่ง จะดีใจที่เราเอาตัวรอด ดำเนินชีวิตคริสเตียน มั่นคงกว่าคนอื่น นั่นเป็นความหายนะโดยแท้ เหมือนกับก้อนดินก้อนหนึ่ง ที่บอกช่างปั้นว่า มันเป็นของพร้อมใช้สอย ทั้งที่ยังไม่ถูกปั้น
    สิ่งที่ได้เรียนรู้ในอาทิตย์ที่ผ่านมา คือ ไม่ว่าใครจะมองเราเลวร้าย ตัดสินว่าเราจิตวิญญาณอยู่ระดับไหน เราก็ยังต้อยต่ำ ไม่มีสิ่งใดจะอวดได้ว่าเราดีกว่าที่ใครวิจารณ์เรา ความรู้สึกที่ว่าตนเองเป็นบาปที่น่าสมเพช ทำให้พบพระเจ้า และสัมผัสพระองค์แบบล้ำลึกอยู่เสมอ
    ดีใจที่อาทิตย์ที่ผ่านมา สัมผัสความพิเศษในพระเจ้าทุกๆ วัน สด ใหม่ เสมอ แม้จะไม่กล้าพูดได้ว่า เราเฝ้าเดี่ยว เราอยู่กับพระเจ้ามากกว่าใครหรือเปล่า หนังสือโรม 7 เป็นกุญแจที่ไขไปสู่ความจริงมากมาย ไม่มีซักครั้งที่พระเจ้าจะตอบ ว่ามนุษย์ดีพอแล้วหรือยัง เพราะในตัวมนุษย์ "ไม่มีความดีประการใดอยู่เลย" พระเจ้าสอนและย้ำว่า ความชอบธรรม สิ่งดี สิ่งทรงคุณ มาจากเบื้องบนเสมอ และเรารับก็พระคุณพระเจ้า มากมายเหลือล้น! แม้พระเยซูจะรู้ว่าอะไรมีอยู่ในมนุษย์ก็ตาม


  2. การ weight ความสำคัญฝ่ายวิญญาณ
    แม้การงานบางอย่างจะเกี่ยวข้องกับพระเจ้า เราต้องตระหนักให้มาก ว่ามันอยู่ระดับไหน เพื่ออะไร มีความสำคัญมากน้อยยังไง กับคริสตจักร หากพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ทรงนำ แต่เกรงใจทำ ด้วยความจำใจ ร่วมมือ ร่วมงาน ก็จะมีผลลบกับการเกิดผลของเราเอง เหมือนดังที่เปาโลไม่พอใจ มาระโก จึงแยกทางกับบารนาบัส ไปตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยเลือกผู้ร่วมงานใหม่ คือ สิลาส (แม้เปาโลเอง จะเห็นว่า มาระโกเป็นคนใช้การได้บ้าง ในภายหลังก็ตาม)
    พระเจ้าตรัสกับเราด้วยว่า ไม่ใช่ภาษาแปลกๆ ที่แสดงว่าพระวิญญาณได้เคลื่อนไหวจริงๆ
    แต่เป็นการสัมผัสแตะต้องภายในจิตใจ หากพระเจ้าไม่ทรงนำ คริสเตียน ก็จะรู้สึกถึงความจืดชืดของสิ่งที่กำลังปฎิบัติในขณะนั้น และไม่พบการทรงนำนั้นๆ ... อย่างเมื่อวันศุกร์ เจอคนผีเข้าด่าคน ว่าจะฆ่าคน กล่าวคำหยาบช้าเดินทั่วถนน พระเจ้ามิได้ทรงนำให้เข้าไปยืนจ้องตา และสั่งขับในพระนามพระเยซู ทำให้คิดถึงตอนเปาโลขับผีทาสก่อนติดคุก เปาโลรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องขับ ตั้งแต่ ณ วินาทีแรก และเมื่อถึงเวลา พระวิญญาณก็จะทรงนำเอง
    การให้น้ำหนักเรื่องราวฝ่ายวิญญาณ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อไม่ตกอยู่ในอุบายของพญามาร ซึ่งบางที เราอาจจะไม่รู้ตัวเลย ในขณะที่ซาตานทำให้เราสนใจสิ่งที่มีคุณค่าน้อยกว่า เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยพลังแห่งคริสตจักร ในการขอการทรงนำจากพระเจ้า โดยการอธิษฐาน สามัคคีธรรม โดยไม่มีใจลำเอียงเข้าเข้างตนเพียงฝ่ายเดียว




2. ทัศนคติของพระเจ้ากับการพูด


  1. พูดเหมือนหนึ่งพูดพระวจนะคำพระเจ้า เพื่ออยู่ในความควบคุมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเสริมสร้างจิตวิญญาณของทุกฝ่าย "ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดจะพูด ก็ให้กล่าวเหมือนหนึ่งกล่าว พระภาษิตของพระเจ้า" [1 เปโตร 4:11] แล้วผู้ซึ่งได้รับเกียรติ จะเป็นพระองค์ (ซึ่งมนุษย์ไม่สมควรได้รับอยู่แล้ว)

  2. พูดสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น มีแต่จะทำให้คริสตจักรได้เติบโตขึ้น .....

  3. พูดเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า ไม่ใช่เพื่อยกย่องตนเอง และพูดเรื่องราวของตนเองเพื่ออวดใคร โดยเฉพาะเรื่องฝ่ายวิญญาณ เพราะพระธรรมยากอบกล่าวว่า "การโอ้อวดทุกอย่าง เป็นความชั่ว " และ "คนที่ยกย่องตัวเองไม่เป็นที่นับถือของผู้ใด " [2 โครินธ์ 10:18]

  4. ไม่พูดส่อเสียด จะลดการสะสม สิ่งชั่วในใจลงไปได้มาก ไม่พร่ำบ่น เพื่อจะใช้โอกาสนั้น สรรเสริญ ขอบพระคุณพระเจ้าแทนได้ ไม่พูดไร้สาระ และพูดมุขตลกหยาบโลน เพราะการเติบโตฝ่ายวิญญาณ จะรั่วและลอยความชอบธรรมออกไป โดยไม่รู้ตัว กลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ หรือเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น (พระเยซูเองก็ไม่พูดเล่น ตลกไร้สาระ แต่สั่งสอนเรื่องพระเจ้าด้วยสติปัญญา)


"ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว"
"ถึงคนโง่ หากนิ่งเสีย ก็นับว่าเป็นคนฉลาด เมื่อเขาหุบริมฝีปากของเขา ก็นับว่าเขามีความคิด"



3. การใช้ของประทานให้ถูกต้อง

การใช้ของประทานที่ถูกต้อง ไม่ใช่การสนองความต้องการฝ่ายเนื้อหนัง แต่สิ่งเหล่านั้น ต้องกำเนิดมาจากพระเจ้า ดังแผนงานที่คลอดออกจากครรภ์มารดา

การที่ใช้คนจับปลาเก่ง ไปเก็บเกี่ยวไร่น่า และนวดข้าว ย่อมเป็นการใช้คนอย่างไร้ประสิทธิภาพ
เช่นเดียวกัน หากคนถนัดตีกลอง แต่พยายามสอนเปียโนให้คนอื่น ทั้งที่ตนก็ยังอ่อน ก็เป็นการเพียงฝึกตนเอง ให้ดีขึ้นได้นิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับผู้อื่น ขัดแย้งกับหลักที่ว่า "Put the right man on the right job! " แต่สำหรับโลกฝ่ายวิญญาณ ความสำคัญอยู่ที่ การเสริมสร้างให้คริสตจักรจำเริญขึ้น และต้องไม่โดยไม่ทับซ้อน กับงานที่คนอื่นได้วางเอาไว้แล้ว ในทำนองเดียวกัน คนที่ไม่มีของประทานในการเตือนสติ เมื่อกระทำกิจแทนคนที่มี มักจะออกมาในรูปแบบส่อเสียดอยู่เสมอ (แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม คนที่สังเกตุวิญญาณ จะสัมผัสได้)

โดยปกติแล้ว การรับใช้ในงานใดงานหนึ่ง ควรเริ่มจากความรัก รักพระเจ้า รักผู้อื่น ไม่ใช่เริ่มต้นที่ การเห็นข้อบกพร่องของผู้อื่นก่อน แล้วคิดว่าตนมั่นคงดีแล้ว จึงอยากจะอุดรูให้ผู้อื่น ซึ่งจะเป็นการรับใช้ ด้วยการงานของเนื้อหนัง ... ใน ยอห์น 6:28-29 กล่าวว่า การงานของพระเจ้า คือ "วางใจในพระเยซู" (ซึ่งเราก็เน้นพระเยซู กันน้อยเกินไปทีเดียว) ไม่ว่าจะของประทานดีเลิศ ทำงานพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่ได้เริ่มจากความรักของพระเยซู การงานนั้นก็เป็นแค่เพียง ไม้ หญ้าแห้ง ฟาง เมื่อพิสูจน์ด้วยไฟ สิ่งเหล่านั้นก็ถูกเผาไหม้ไป ไม่มีค่าอะไรเลย



"ความเชื่อ ทำให้ทุกสิ่งเป็นได้
ความรัก ทำให้ทุกสิ่งง่ายไปหมด"

Saturday, January 14, 2006

ไม่ใช่ฤทธิ์ ไม่ใช่แรง แต่แข็งแกร่งโดยพระวิญญาณ

ก่อนที่จะชัดเจน ว่าการหยุดชะงัก และลังเลในการทำเว็บ เป็นมาจากซาตาน ไม่ใช่พระเจ้า ก็มีหนังสือของวอชแมน นี ที่เป็นสื่อซึ่งซาตานใช้ผ่านครั้งใหญ่เสียด้วย ทำให้ขยาดการอ่านหนังสือของท่านไปเลย ก็คงอีกนานอ่ะนะ กว่าจะอยากไปอ่านอีก

เมื่อฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณเทลงมาเจิม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา วันนี้ก็ทำเว็บอย่างมีความสุข คล่องปรื๊ดๆ แต่ยังรู้สึกว่าไม่พอ ต้องการเจิมระดับเข้มข้นมากขึ้นอีก เพราะตลอดช่วงที่ทำ มีสิ่งที่รบกวน และพยายามดึงออกจากงานนี้เสมอ

สิ่งที่พระเจ้าให้ข้อสังเกตวันนี้ คือ เรื่องการเป็นผู้นำของโมเสส มีการขัดแย้งครั้งใหญ่ ในความสงสัยการเป็นผู้นำของโมเสสถึง 2 ครั้ง คือ ครั้งที่อาโรนและมิเรียมอิจฉาโมเสส จนมิเรียมเป็นโรคเรื้อน และกบฎโคราห์ ที่คนเผ่าปุโรหิต ถูกธรณีสูบลงไป ... การเป็นผู้นำของโมเสส ถ้าเทียบกับกษัตริย์องค์ต่างๆ ของอิสราเอล ค่อนข้างแตกต่างอย่างมาก เพราะกษัตริย์มีการเจิม มีพิธี มีวันเวลาที่แน่ชัด มีศักดิ์ มีอำนาจเด็ดขาดเหนือประชาชน ... โมเสสไม่เคยอ้างตัวว่าเป็นผู้นำ ไม่เคยถูกเจิมตั้งเด่นชัดเป็นพิธี จนทำให้มีคนคาใจ ว่าพระเจ้าแต่งตั้งท่านแน่หรือ ให้เป็นผู้นำชนชาติ (แม้โมเสสจะเป็นผู้ต่อรองฟาโรห์ และนำคนข้ามแม่น้ำก็ตาม) การทรงเรียกของพระเจ้าต่อโมเสสครั้งแรก ค่อนข้างเป็นการส่วนตัว และโมเสสมีข้อต่อรอง ขาดความมั่นใจมาก จนพระเจ้าโกรธ แต่พระองค์ก็เมตตา ส่งอาโรนซึ่งพูดเก่งกว่ามาช่วย

เหมือนดัง กิจการ 5:38 ที่กล่าวว่า ถ้าความคิดหรือกิจการนี้ มาจากมนุษย์ก็จะล้มละลายไปเอง ในกิจการ ข้อนี้คนพูดเป็นฟาริสี ที่ไม่รู้จักเปโตรมากนัก ยังไม่กล้ายุ่ง แต่กับโมเสส แม้การตั้งไม่เด่น แต่บทบาทเด่น ก็ยังไม่พ้นขี้ปากมนุษย์ อืมม แปลกจริงๆ นะ

Friday, January 13, 2006

ขอความรัก ขอฤทธา ทรงเจิมใจข้าให้ล้นไหล

เป็นวันที่น่าขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ปีใหม่มา งานที่บริษัทเยอะมากจนแทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย แต่ก็ขอบคุณพระองค์อีก ที่ประทานสันติสุขวันต่อวัน ในการทำงาน ทั้งที่ลึกๆ ลงไป ไม่อยากดำเนินชีวิตในวงจรแบบนี้เท่าไหร่ แต่พระเจ้าตรัสผ่าน (เมื่อวาน หรือ วานซืน ไม่แน่ใจ) ใน Romans 15 ว่า "ไม่ควรกระทำสิ่งใดตามความพอใจของตัวเอง เราทุกคนจงกระทำให้เพื่อนบ้านพอใจ" เพราะเรามีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ พระคริสต์ก็รักมนุษย์ของพระองค์ด้วย พระองค์ปรารถนาให้ทุกคนมีวันดีวันหนึ่ง ในอาณาจักรนิรันดร์นั้น ถ้าทุกคนที่เป็นคริสเตียนเบื่องานที่บริษัทหมด ใครเล่าจะบอกข่าวประเสริฐให้เค้าฟังได้? และที่สำคัญ ความหมายของความพอใจตัวเอง แต่ให้ผู้อื่นพอใจนั้น รวมถึงความสบายใจของแม่ เพราะพระเจ้าพระคำข้อหนึ่งเสมอมา คือ "ให้ตอบแทนคุณบิดามารดา เพราะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า" 1 Tim 5:4

และที่ว่าขอบคุณพระเจ้าเรื่องนึงมากในวันนี้เรื่องงาน คือ อยากไปร่วมประชุมอธิษฐานตอนกลางคืนมากๆ แต่พอเลยเวลาเลิกงานไปแล้ว Tony ที่อังกฤษนัดลูกค้าพรีเซนต์งานของเรา แล้วฝั่งโน้นมันดันกลางวันอยู่ เราก็ต้องอยู่รอแก้โน่นแก้นี่จน 2 ทุ่ม คิดว่าไงไปถึงก็คงเกือบเลิก และไปคงเหมือนไม่ได้ไป ... แต่พระเจ้าแห่งความรัก มหัศจรรย์แท้ หลังจากคำเทศนาของศบ. อาทิตย์ก่อน คนไปมากกว่าเดิม ประมาณ 8 เท่าตัว และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น อาจารย์เน้นการรับพระวิญญาณเหมือนในคืนโต้รุ่งอธิษฐาน

สรุปแล้ว ไปถึง ได้ฟังคำเทศนาตั้งแต่เริ่ม จนจบรายการรับพระวิญญาณ และสัมผัสได้ว่า มีสิ่งแปลกใหม่ การหลายสิ่งที่โบสถ์เราเปลี่ยนไป เมื่อพระวิญญาณเริ่มต้นการดี สมาชิกย่อมได้รับพระพร และไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากการเจิม เกิดความมั่นใจในงานเว็บ ที่ก่อนหน้านี้มีสิ่งรบกวนไม่ให้มั่นใจเสมอ อยากสรรเสริญพระเจ้า ไม่อยากเปลี่ยนเรื่องคิดที่ไม่เกี่ยวกับพระเจ้าเลย ขอบคุณพระองค์ โดยพระคุณ พระองค์ทำให้ข้าคิดสิ่งนั้นได้เสมอมา เพราะตัวข้าพระองค์ ในความไม่มีดี คงไม่อยากกระหายหาความชอบธรรมเท่าไหร่ กลับมาบ้าน ได้อดอาหาร อธิษฐานเรื่องซีเรียสเกี่ยวกับกลุ่มอากาเป้มาระยะหนึ่งแล้ว กลับยังไม่ได้คำตอบจากพระเจ้าเสียที ว่าควรจะไปในทางไหน เน้นอะไร ตอนนี้มองเห็นเลาๆ เกี่ยวกับการโตในการทรงนำ มากกว่าที่จะเสี้ยมสอนจากเราผู้ซึ่งไม่มีของประทาน แต่เชื่อเสมอ พระองค์จะยังประทานคำตอบนั้น แน่นอน

P.S. // เรื่องการรับพระวิญญาณคืนวันศุกร์ เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ถึงขนาดที่อาทิตย์ก่อนหน้า พระเจ้าห้ามไม่ให้พี่ต้อมเทศน์ กลับให้อาจารย์ที่ไม่รู้จะแบ่งอะไรเทศน์แทน และพระเจ้าก็ตรัสบอกอาจารย์สมเกียรติ ว่าให้เน้นเรื่องการทรงนำของพระวิญญาณ เรื่องฤทธิ์เดชที่มนุษย์ไม่สามารถก่อเกิดขึ้นได้เอง
หนังสือกิจการของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นหนังสือที่แปลกกว่าทุกเล่ม เพราะไม่มีตอนจบ ... ก็พระวิญญาณยังร่วมงานกับมนุษย์อยู่เสมอ วันนี้ และจนกว่าจะสิ้นยุค ขอพระเจ้าโปรดส่งการเจิม และการฟื้นฟูลงมาในงานของพระองค์ ตลอดปี 2006 เพื่อเราจะได้สรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์มากๆ ยิ่งขึ้นไป

Thursday, January 12, 2006

พระประสงค์ชิ้นใหญ่ กับการเติบโตฝ่ายวิญญาณ

การที่คนเราได้ยินเสียงพระเจ้า แล้วไม่ได้ทำตาม (ขัดขืนพระวิญญาณ) ก็เป็นการดีแล้วที่ไม่ได้ยินมากขึ้น ถ้า Hear แต่ไม่ Obey การตรัสของพระเจ้าจะดูไร้ค่า และเราก็จะมีบาปมากขึ้น

สิ่งที่พระเจ้าสอน สิ่งที่พระเจ้าให้รู้ ให้เป็นไปตามน้ำพระทัย ตามกระบวนการหล่อหลอม นับว่าเป็นสิ่งดีแล้ว ถ้าเราแสวงหาพระประสงค์ใหญ่ๆ ที่สำคัญอย่างมากต่อชีวิตของเราเอง แล้วเราทำไม่ได้ ก็อย่ารู้ดีกว่า บิดาไม่สามารถใช้บุตรที่ยังเดินไม่ได้ ให้ไปซื้อของที่ร้านค้ามาให้ได้ หลายอย่างต้องมีขั้นตอน ค่อยเป็น ค่อยไป หากนักเรียนประถม อยากเรียนมัธยม ก็ต้องตั้งใจให้สอบผ่านไปได้ก่อน จึงจะมี "สิทธิ" โตเป็นผู้ใหญ่ต่อไป

วันนี้งานยุ่งตามเคย (ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา) อาทิตย์นี้ ทำงานพร้อมกัน 3 โปรเจค: Unicef, Langham-Eton, Pegasus:RateCheker แต่ตอนเย็น พระเจ้าอวยพรจริงๆ ให้ไม่ถูกผูกมัดด้วยงาน สามารถหลุดไปแคร์โบสถ์พี่แนนได้อย่างอัศจรรย์ ... วันนี้คนในแคร์น้อยกว่าปกติ มีแค่ 9 คน และเราไม่สามารถเข้าถึงพระเจ้าด้วยการนมัสการแบบลึกๆ ได้ เพราะเพลงวันนี้ ร้องไม่เป็นซักเพลงเดียว ต้องอาศัยการทรงนำของพระวิญญาณ ในการช่วยอธิษฐาน แต่ยังไง ก็ยังไงได้รับพระพรที่ Aruch เป็นคนแบ่งปัน เรื่องความชื่นชมยินดีในพระเจ้า

ก่อนกลับบ้าน กินข้าวดึกอีก เฮ้อ ก็มันหิวนิ่เนอะ พี่ ช. ก็สวีทกับแฟน(ใหม่) เสียเหลือเกิน ทั้งที่วันก่อนไม่ใช่รูปการณ์แบบนี้เลย เห็นพี่ ด. แล้ว รู้สึกหน้าเหมือนอาจารย์ปลา โบสถ์พี่แนนจัง คนใหม่ก็อย่างนี้แหละ 555 นั่งนิ่งอึ้ง นมัสการ แชร์ความคิดไม่ออก น่าสงสารพอสมควร แต่ก็ขอบคุณพระเจ้า ที่อย่างน้อย ความเชื่อของพี่เค้าก็ทำให้รอดแล้ว (มั๊ง)

Sunday, January 08, 2006

พระเจ้าน่ารัก พระเจ้าเฝ้าตอบคำอธิษฐาน

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ ปีใหม่มา อาทิตย์ที่สองนี้ พระเจ้าอวยพระพรกลุ่มอย่างมาก พระองค์ตอบคำอธิษฐานเสมอ ได้แก่

- พระเจ้าชักนำพี่ภูคิน ให้เริ่มเชื่อ และอธิษฐานกับพระองค์ เป็นคนในบริษัทที่แซงโค้งตัวเก็งอื่น
- พระเจ้าอวยพระพรคนมาใหม่ ให้สัมผัสการอวยพรของพระเจ้า เพื่อให้รู้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความจริงอยู่เสมอ (หนึ่งในคนใหม่ วันนี้มาโบสถ์)
- พระเจ้าช่วยนำคนใหม่มาในกลุ่ม คนเก่าให้กลับมาในกลุ่ม ตอบเด๊ะๆ เลย ซึ่งวันนี้ก็มีคนเข้าประชุม 10 คน สมาชิกเก่าที่หายไปก็กลับมา กิ๊บ+น้องเข้ากลุ่ม เจี๊ยบ+ตั้มเข้ากลุ่ม
- พระเจ้าส่งการฟื้นฟูมาในครอบครัว คริสตจักร และสิ่งแวดล้อมตามคำขอ
- พระเจ้าส่งคนงานมาเก็บเกี่ยว พระองค์กำลังเรียกและทำงานในหัวใจคริสเตียนให้ร้อนรนมากยิ่งขึ้น
- พระองค์คุ้มครองปกป้อง เมตตา ให้เรายังไม่หลงออกจากทางพระเจ้า และซาบซึ้ง เห็นพระคุณเปล่าๆ มากขึ้นเสมอ
- พระเจ้าประทานความชอบธรรมผ่านความเชื่อ (ที่พระเจ้าก็ประทานให้อีกนั่นแหละ) เพื่อคนไม่มีอะไรติดตัว มีความดีโดยพระเจ้า

วันนี้จะทำสบู่กัน แต่ไม่รู้อีท่าไหน กลายเป็นว่า นั่งคุยงาน ปั่นจักรยาน กินหมูกะทะ แล้วก็กลับไปเฝ้าเดี่ยวแทน (ท้องอืดมากเลย ทั้งที่ว่าจะไม่กินอีกแล้ว เฮ้อ...ลืมไปเลย)

Sunday, January 01, 2006

วันปีใหม่ ที่ไม่เหมือนปีใหม่

วันนี้ปีใหม่แล้ว แต่ไม่ยักกะรู้สึกว่ามันใหม่ ตื่นเต้นเหมือนปีก่อนๆ หน้านี้ (เอ...หรือว่าพอวัยนี้แล้วจะเป็นอย่างนี้น้อ) เมื่อคืนนอนข้ามปีเลยนะ ไม่รู้ตัวเลยว่าฝันอะไรตอนข้ามปี เป็นปีใหม่ที่ตรงกับวันอาทิตย์พอดี อย่างไม่เคยเจอมาก่อน

ก็ดีใจ ที่น้อง ช. ซึ่งเมื่อก่อนไม่ค่อยติดโบสถ์ ได้มาโบสถ์มากขึ้น ส่วนน้อง เก้ ก็พาคนใหม่มาได้เรื่อยๆ อยากให้พระเจ้าแตะและเจิมอย่างนั้นจริงๆ คงได้ผลมากกว่านี้หลายเท่า วันนี้ Pastor เทศน์ดีมาก เข้ากับปีใหม่ด้วย และมีสิ่งที่พระเจ้านำมาแตะต้องใจเยอะมากๆ (ก็โน้ตๆ ไว้ ไปไล่อ่านเอาต่อ) มีทั้งสอน หนุนใจ เตือนสติ ให้ไกด์ไลน์ เปิดตาในหลายๆ อย่าง ขอบคุณพระองค์ การทรงสถิตตอนนมัสการก็หนา...

วันนี้ก็ไปฉลองปีใหม่กะเด็ก (เฮ้อ...ทำไมไม่มีใครแก่กว่ามาด้วยน้า รู้สึกเป็น senior ไปหน่อย) เพราะว่าที่บ้านกำลังจะออกไปเที่ยวต่งจังหวัด จะตั้งใจทำงานนอกช่วงวันหยุด ไม่รู้จะเป็นไงบ้าง ก็วันนี้เหมือนเอาอากาเป้ไปคุยนอกสถานที่ ก็ดีไปอีกแบบนึง ได้ข่าวเรื่องเต๋าด้วย ว่าพระเจ้าตอบคำอธิษฐานที่เค้าขอ รู้สึกดีใจกะเค้า แถมคนที่เก้พามาแต่ละคน ก็ออกเป็นแนวผู้สนใจ มากกว่าผู้จับผิด พระวิญญาณทำงานสัมผัสจริงๆ (ตะโกน...พระเจ้าน่าร้ากกก)

ขากลับดันสงสารแชมป์ บ้านอยู่ไกล อยากไปส่งซักครึ่งทาง เลยได้ชอปปิ้ง ใช้ตังค์ไปหลายพัน เซ็งตัวเองเหมือนกัน แต่ถ้าคิดๆ แล้ว ก็ไม่ได้ซื้อไรมาก แล้วที่ซื้อมา ก็จำเป็นระดับนึง เท่าที่ตัดใจหลายๆ อย่าง เชื่อว่าพระเจ้าทรงนำแล้วในการซื้ออะไรต่างๆ แต่ตอนต่อราคาของ แหม่ คนเราไม่มีสิทธิหรือไงน้อ ก็คนไทยนี่หน่า ต่อแค่ไม่กี่สิบบาท กางเกงตัวหลายตังค์ กลับโกรธเรามากๆ มนุษย์หนอ มนุษย์ ... สรุปแล้ววันนี้ ถ้าไม่ผ่านมาหน้าราม คงไม่เสียตังค์ ที่จ่ายเยอะๆ ก็ผ้าปูที่นอน หลายชุด หลายตังค์ เอาไปฝากแจ้จี๊ดเป็นของขวัญปีใหม่แล้วกัน

พระคำวันนี้: จงยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ จะฟ้องก็ฟ้องพระเจ้า อย่าวุ่นวายในจิตใจ พระเจ้านั้นเที่ยงธรรม (แม้จะซื้อน้ำแก้วนึง ตักให้เราแค่ครึ่งแก้ว ก็ขอบคุณพระเจ้าได้)